อดีตผู้พัฒนา Halo Infinite ได้ออกมาตำหนิความเป็นผู้นำของ Microsoft หลังจากการประกาศปลดพนักงานครั้งใหญ่ของบริษัทเมื่อไม่นานมานี้ สำหรับผู้ที่ไม่คุ้นเคยกับสถานการณ์นี้ เมื่อวันที่ 18 มกราคม Microsoft ประกาศเลิกจ้างงาน 10,000 ตำแหน่งภายในสิ้นปีงบประมาณ 2023 มีรายงานว่าการลดงานเหล่านี้รวมถึงแผนกเกมของ Microsoft ด้วย

ดังนั้นพนักงานของแผนก Xbox, 343 Industries และ Bethesda จึงได้รับการกล่าวขานว่าเป็นส่วนหนึ่งของการปลดพนักงานเหล่านี้ด้วย

Microsoft เริ่มขยายอิทธิพลในอุตสาหกรรมวิดีโอเกมโดยการซื้อสตูดิโอและผู้เผยแพร่หลายรายในช่วงปี 2010 หลังจากการซื้อ Obsidian Entertainment และ Ninja Theory ในปี 2018 การซื้อกิจการก็เร่งตัวขึ้นอีกโดยการเพิ่ม ZeniMax Media ในปี 2020 และจากนั้นก็มีการประชาสัมพันธ์อย่างมากเพื่อรับ Activision Blizzard ในต้นปี 2021 ตอนนี้ดูเหมือนว่าอย่างน้อยผลกระทบบางประการจากสิ่งเหล่านี้ การลงทุนจำนวนมากอาจเริ่มมีผล

การพัฒนาเหล่านี้ตามมาด้วยการประกาศการปรับโครงสร้างที่ 343 Industries รับผิดชอบการพัฒนา Halo Infinite ตอนนี้อดีตพนักงาน 343 Industries จำนวนมากได้แสดงความไม่พอใจใน  Social Media และตำหนิการปลดพนักงานของ Microsoft สำหรับปัญหาทั้งหมดของ Halo Infinite อดีตนักออกแบบอาวุโสหลายคนของ Halo Infinite Patrick Wren ทวีตความเชื่อของเขาว่าการเลิกจ้างที่ 343 Industries และสถานะปัจจุบันของ Halo Infinite ไม่ควรเกิดขึ้น และเขาให้เหตุผลว่าสิ่งนี้มาจากความเป็นผู้นำที่ไม่มีประสิทธิภาพในการพัฒนาเกมสร้างจำนวนที่มากเกินไป เน้นย้ำกับทีมที่พยายามทำให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้

Tyler Owens อดีตผู้พัฒนา Halo อีกคนได้ทวีตแสดงความคับข้องใจต่อ Microsoft และแนวทางปฏิบัติของ Microsoft โดยสังเกตว่ามันกำลังทำให้ซีรีส์ Halo Infinite อันเป็นที่รักต้องตายลงอย่างช้าๆ Owens กล่าวหา Microsoft เกี่ยวกับนโยบายการทำสัญญาที่ไร้ความปรานีออกแบบมาเพื่อเพิ่มแรงจูงใจด้านภาษีสูงสุด

มีการปลดพนักงานออกแม้จะมีกำไรมหาศาลและโบนัสผู้บริหารก็ตาม Owens เชื่อว่าท้ายที่สุดแล้ว Microsoft ก็ทำให้ซีรีส์ Halo อยู่ในตำแหน่งที่ล้มเหลว

ปฏิเสธไม่ได้ว่าความก้าวหน้าเหล่านี้น่าจะสร้างความหวาดหวั่นให้กับทั้ง  Gamer และอุตสาหกรรมเกม สิ่งสำคัญคือต้องจำไว้ว่า Microsoft เป็นองค์กรขนาดใหญ่ที่มีพนักงานมากกว่า 220,000 คนทั่วโลก